จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ความพยายามของมนุษย์เพื่อเอาชนะธรรมชาติ และสร้างความสะดวกสบาย อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนมนุษย์กลายเป็นผู้วิเศษไปแล้วในสายตาของคนโบราณ เพราะมนุษย์สามารถควบคุมสภาพอากาศให้มีอุณหภูมิได้ตามต้องการ (เครื่องปรับอากาศ) สามารถควบคุมแสงสว่างได้ (หลอดไฟ) สามารถเดินทางได้ด้วยความรวดเร็ว (รถยนต์/รถไฟ) สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ (เครื่องบิน/จรวด) มีหูทิพย์ (วิทยุ/โทรศัพท์) มีตาทิพย์ (โทรทัศน์) มีความจดจำเป็นเลิศ (อุปกรณ์บันทึกข้อมูล) สามารถคำนวน/ประมวลผลที่รวดเร็วไม่ผิดพลาด (คอมพิวเตอร์) และยังมีสิ่งวิเศษอีกมากมายที่มนุษย์พยายามประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่มนุษย์จะต้องสูญเสียและต้องแลกเปลี่ยน ให้ได้มาซึ่งความสะดวกสบายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ก็คือพลังงาน ดังนั้นมนุษย์จึงต้องหาแหล่งพลังงานเพื่อให้ทันกับความต้องการ ของการสนองตอบต่อความสุขความสบายของมนุษย์ ยิ่งมนุษย์ต้องการอุปกรณ์ที่สร้างความสะดวกสบายมากขึ้นเท่าไร พลังงานของโลกก็จะถูกเผาผลาญ และเสียสมดุล ก่อให้เกิดผลเสียต่อสภาพแวดล้อม และมนุษย์ก็คงต้องถูกเอาคืนจากธรรมชาติ จนไม่สามารถดำรงเผ่าพันธุ์ของตนเองได้
จากอดีตจนปัจจุบันอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆบริษัทผู้ผลิตได้แข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ในอุปกรณ์ต่างๆในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุผลเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แต่ผู้ผลิตเหล่านี้กลับได้รับผลทางด้านธุรกิจมากมาย ในลักษณะครบวงจร กล่าวคือ บริษัทจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น สามารถจำหน่ายอะไหล่ได้ และสามารถบริการซ่อม และบำรุงรักษาหลังการขายได้ เพราะยิ่งใช้เทคโนโลยีสูงเท่าไร โอกาสที่ผู้ใช้จะให้ร้านซ่อมทั่วไป หรือช่างจากบริษัทอื่นซ่อม ก็ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากจะต้องอาศัยเทคโนโลยีเฉพาะบริษัทนี้เท่านั้น เช่น ธุรกิจรถยนต์รุ่นใหม่ ก็จะต้องเข้าศูนย์ฯของบริษัทเมื่อเกิดอาการเสีย โดยที่อู่ซ่อมรถทั่วไป ไม่สามารถตรวจสอบและซ่อมอาการเสียและหาสาเหตุได้ หากเขาตรวจสอบว่าอะไหล่ตัวใดหมดอายุ ก็ต้องเปลี่ยนตามที่เขาเสนอมา โดยที่เราไม่มีสิทธิ์ไปยืนดูการซ่อมว่าเขาทำอะไรกับรถเราบ้าง เรามีหน้าที่ควักกระเป๋าจ่ายเงินเพียงอย่างเดียว
หากจะพิจารณาแล้วจะเห็นว่าอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยียิ่งสูงเท่าไร ถึงแม้มนุษย์จะมีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่การสิ้นเปลืองพลังงานก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน เช่น การปิดโทรทัศน์โดยใช้รีโมทก็สิ้นเปลืองกระแสไฟมากกว่าการปิดสวิตช์ที่เครื่อง หรือการใช้รถยนต์เกียร์ธรรมดา ก็ประหยัดน้ำมันกว่าการใช้เกียร์ออโต้ (เรื่องนี้ถามคนขับแทกซี่ได้) นอกจากนั้นการใช้เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ (แบบ 2 ถัง) ก็จะประหยัดพลังงานกว่าเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ (แบบถังเดียว) เพราะสามารถประหยัดได้ทั้งน้ำและไฟฟ้า ที่สำคัญมีความทนทานกว่าเนื่องจากใช้มอเตอร์ 2 ตัว แยกกันซัก และสะบัดผ้า นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ที่ต้องสูญเสียพลังงานเพิ่มขึ้นจากการใช้ ไฮ-เทคโนโลยี
ในสภาวะปัจจุบันปรากฏการณ์จากภัยธรรมชาติ ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ คงถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืน ในสิ่งที่มนุษย์ได้ช่วยกันผลาญทำลายทรัพยากรของธรรมชาติตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เราคงจะทำได้เพียงให้ธรรมชาติได้เห็นใจเพื่อยืดเวลาการเอาคืน ด้วยการช่วยกันอนุรักษ์การใช้พลังงาน ด้วยการใช้อย่างประหยัด ใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็น ใช้อย่างระมัดระวัง เพราะทรัพยากรธรรมชาติไม่ใช่สมบัติของเราแต่เป็นสมบัติของมวลมนุษย์ชาติในอนาคต ซึ่งขณะนี้เราได้แอบใช้ทรัพยากรของเขาทั้งหลาย โดยเขาเหล่านั้นยังไม่อนุญาต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น