ปัจจุบันบ้านเรามีการแบ่งระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็น 6 - 3 - 3 รวมเป็น 12 ปี ซึ่งหากเรียนครบทั้ง 12 ปี ก็ยังไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ ผู้สำเร็จการศึกษาจึงต้องไปศึกษาต่อในระดับวิชาชีพ ซึ่งอาจจะเป็น ปวส. หรือป.ตรี จึงจะมีความรู้ในวิชาชีพสาขาต่างๆที่จะออกไปประกอบอาชีพได้
หากหันมาดูการศึกษาด้านอาชีวศึกษา ซึ่งก็คือการศึกษาขั้นวิชาชีพ ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถนำวิชาชีพไปใช้ในการทำมาหากินได้ เช่นระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช) ที่รับผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นม.3 และมีการกำหนดขั้นเงินเดือนให้ผู้สำเร็จการศึกษาอย่างชัดเจน โดยทางราชการ แต่นักการศึกษาบ้านเราก็เหมาเอาว่าการศึกษาในระดับนี้เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยคิดกันง่ายๆ เพียงนับเลข 1- 12 หากใช้เวลาเรียนอยู่ในห้วง 12 ปีก็ให้เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานไปก็แล้วกัน มันง่ายดี ไม่ต้องมีการวิเคราะห์อะไรให้มันยุ่งยาก
ผลเสียจากการตีความในลักษณะนี้ก็คือ ทิศทางการผลิตกำลังคนรวนเร ไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรดี ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือการศึกษาระดับปวช. ใครจะจัดก็ได้สอดแทรกสอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานก็มาก โดยไม่สนใจว่าผู้ที่จบการศึกษาจะมีทักษะเพียงพอที่จะออกไปประกอบอาชีพได้หรือไม่
การจัดการเรียนการสอนด้านวิชาชีพใช่ว่าใครจะจัดก็จัดได้ หากต้องการให้กำลังคนที่เป็นเยาวชนของชาติ มีคุณภาพ ควรใช้มืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมืออุปกรณ์ครบถ้วน บุคคลกรมีความรู้เฉพาะสาขา มิใช่จัดการศึกษาเพียงหวังตัวเลขค่าหัวนักเรียนให้มากๆไว้ก่อนเช่นทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น